สำหรับการประกวดวงดนตรี “Bao Young Blood ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซีซั่น 2 ปีนี้ ยังคงได้รับความสนใจจากวงดนตรีสายเลือดใหม่ตบเท้าเข้ามาพิสูจน์ความสามารถทางดนตรีมากมายตั้งแต่รอบออดิชั่น ตามจังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ จนคัดเลือกเหลือเพียงตัวแทนวงดนตรี 5 วง 5 ภูมิภาคเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งต่างงัดฝีมือทางดนตรีมาสรรค์สร้างเพลงเพื่อชีวิตของวงคาราบาว ถ่ายทอดออกมาในแบบของตัวเอง ได้แก่ The Black Sheep จ.ภูเก็ต ตัวแทนภาคใต้ / Full Feel Ska จ.นนทบุรี ตัวแทนกรุงเทพฯและปริมณฑล / Betta Splens จ.อุบลราชธานี ตัวแทนภาคอีสาน / Erotic Roll จ.สุโขทัย ตัวแทนภาคเหนือ / The Warrior จ.นครนายก ตัวแทนภาคกลาง

โดยผลการตัดสินมาจากคะแนน 3 ส่วน ได้แก่ ผลคะแนนจากวงคาราบาว และกรรมการประจำรายการทั้ง 3 คน นำโดย “น้าเขียว คาราบาว” กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร, “แมว” จิรศักดิ์ ปานพุ่ม และ “ครูอ้วน” มณีนุช เสมรสุต รวมทั้งผลโหวตจากผู้ชมรายการทั่วประเทศ

หลังออกมาวาดลีลาและโชว์พลังดนตรีกันอย่างเต็มที่ ในที่สุดพิธีกรก็ประกาศรายชื่อวงดนตรีที่คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งสตูดิโอ ได้แก่ วง The Warrior จ.นครนายก ตัวแทนภาคกลาง ที่มาอวดพลังเสียงจากบทเพลง “พระเจ้าตาก” ชนะใจวงคาราบาว และคณะกรรมการ 3 ท่าน ร่วมทั้งผู้ชมทางบ้านไปแบบขาดลอย

“ภูมิ” นนร.บริรักษ์ มณีศรีสุวรรณ วัย 19 ปี ปัจจุบันศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก นักร้อง ซึ่ง ตัวแทนจากวง The Warrior ที่คว้าแชมป์ในซีซั่น 2 เผยว่า การมาประกวดครั้งนี้ สมาชิกภายในวงยึดแนวคิด “สร้างความสุขด้วยเสียงดนตรี” และต้องการแสดงให้เห็นว่า ทหารไม่ได้แค่จับปืนปกป้องชาติเท่านั้น แต่สามารถจับเครื่องดนตรีสร้างความสุขได้เช่นกัน โดยเลือกบทเพลง “พระเจ้าตาก” เป็นเพลงในรอบตัดเชือก

“คิดว่าเป็นเพราะความแข็งแกร่ง ที่ทำให้เราได้เปรียบในเรื่องพลัง พูดง่ายๆ คือเรามีแข็งแรงมากกว่าที่มาจากการฝึกต่างๆ ทำให้การเล่นดนตรีของพวกเราสามารถปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ คนส่วนใหญ่อาจมองว่าดนตรีกับทหารไปด้วยกันยาก แต่เมื่อเราลองพยายามทุ่มเทเวลาให้ดนตรี ดนตรีสามารถเปลี่ยนเราไปในอีกแบบหนึ่ง ทำให้เรามองเห็นอีกด้านหนึ่งของเราว่าทหารก็สามารถมีทั้งมุมเข้มแข็งและมุมอ่อนโยนได้เช่นกัน” ตัวแทนจากวง The Warrior กล่าว

สำหรับวง The Warrior เกิดจากรวมตัวของนักเรียนเตรียมทหาร 8 คนของโรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก จากชมรมดนตรีสากล โดยคัดสรรสมาชิกของวงที่มีความสามารถโดดเด่นด้านดนตรีที่แตกต่างกันจากแต่ละชั้นปี และเคยตระเวนประกวดร้องเพลงมาบ้างแล้ว แต่ท้ายสุดมาฉายแววทางดนตรีถึงขีดสุดจากการประกวด “Bao Young Blood ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซีซั่น 2

“บอกก่อนว่าวงพวกเราไม่ได้มาแนวเพลงเพื่อชีวิตตั้งแต่ต้น ก่อนหน้านี้เคยประกวดเวทีต่างๆ มาบ้าง ตอนนั้นรู้สึกว่าความสามารถของเราสุดแล้ว คิดว่าต่อยอดจากนี้ไม่ได้แล้ว แต่หลังเข้าประกวดและได้มีโอกาสร่วมเวิร์คช็อปดนตรีกับพี่วงคาราบาวก็ได้รับคำแนะนำจากพี่ๆ ทำให้รู้ว่ามีคำว่า ‘สุดกว่า’ รู้สึกศรัทธาพี่ๆ วงคาราบาวมาก สมกับที่พวกเขาเป็นตำนานจริงๆ โดยเป้าหมายหลังได้แชมป์รายการนี้ พวกเราตั้งใจจะปั้นรุ่นน้องในชมรมดนตรีฯ ของเราต่อไป อาจไม่จำเป็นต้องเป็น The Warrior ก็ได้”

ทั้งนี้ตัวแทนวง The Warrior ยังได้ฝากทิ้งท้ายไปยังน้องรุ่นที่จะเข้ามาประกวดเวทีนี้ในปีต่อๆ ไปอีกว่า อยากให้น้องๆ เล่นดนตรีจากใจรัก อย่าไปคิดว่าต้องได้ชื่อเสียงจากสิ่งเหล่านี้ เพราะดนตรีคือสิ่งจรรโลงใจ ช่วยให้ชีวิตเบิกบาน และพยายามฝึกฝนพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ เหมือนอย่างที่เกิดกับพวกเขาที่ได้มีโอกาสรับคำแนะนำจากวงคาราบาว

ด้าน ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว กล่าวถึงการประกวดครั้งนี้ว่า ‘โอกาส’ เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ แต่เมื่อโอกาสมาถึง ต้องคว้าโอกาสนั้นไว้ และสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น คือ หัวใจและความมุ่งมั่น ฉะนั้นเวทีนี้จึงเปรียบเสมือนการมอบโอกาสให้กับน้องๆ คนรุ่นใหม่ได้โอกาสในการแสดงความสามารถ และได้ภูมิใจที่ได้การช่วยส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สมกับชื่อโครงการ ‘ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต’ โดยรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตการกุศลทั้งหมด ได้มอบเป็นทุนดำเนินชีวิตให้กับศิลปินอาวุโสที่ประสบปัญหาชีวิตด้วย

“ชีวิตของพวกผมได้เห็นถึงคุณค่าของดนตรี จึงอยากนำสิ่งนี้มาสานต่อความฝันของเยาวชน โดยมอบโอกาสเวทีประกวดให้กับน้องๆที่มีใจรักดนตรีได้สัมผัสกับมืออาชีพ ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพวกเราซึ่งประสบความสำเร็จด้านดนตรีแล้ว ในอนาคตเมื่อพวกเขาจะไปต่อยอด อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขาก็ได้มาสัมผัสและได้ทำสิ่งดีๆ ไปพร้อมกับเรา ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ลืม การที่มีโครงการดีๆ แบบนี้ออกมาในสังคมไทย ทำให้เด็กได้มีโอกาสใช้ความสามารถ ให้เขาได้รู้ว่าเขามีพลังความคิด มีโอกาสที่จะนำพาสังคมไทยไปในทางที่ดีในอนาคตได้”

สำหรับรางวัลชนะเลิศ “Bao Young Blood ดนตรีสร้างคุณค่าชีวิต” ซีซั่น2 จะได้รับโล่เกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 100,000 บาท จากมูลนิธิคาราบาว โดยวงดนตรีทั้ง 5 วงที่เข้ารอบ จะได้สัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญในชีวิต ได้มีโอกาสร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับวงคาราบาวตำนานเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางดนตรีน่าประทับใจที่สุดของสายเลือดใหม่ คนพันธุ์บาว